วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

แมงป่องยักษ์ สัตว์พิษร้าย ที่มักจะแฝงตัวในที่ แสงสลัว และ หากถูกเจ้า แมงป่องยักษ์ มันปล่อย พิษ ที่ ปลายหาง ต่อย อย่างไม่ยั้ง ก็อาจทำให้จบชีวิตได้เหมือนกัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่หลงเสน่ห์เจ้า แมงป่องยักษ์ กระทั่งอดใจไม่ไหว ต้องหามาเลี้ยง เป็น สัตว์เลี้ยง น่ารัก โอ้ย แค่คิดก็ เสียว แล้ว

            "แมงป่องยักษ์" สัตว์พิษร้ายที่มักจะแฝงตัวในที่แสงสลัว และ หากถูกมันปล่อยพิษที่ปลายหางต่อยอย่างไม่ยั้งก็อาจทำให้จบชีวิตได้เหมือนกัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่หลงเสน่ห์กระทั่งอดใจไม่ไหว ต้องหามาเลี้ยง...วุ้ยเสียว..!!!

                                     
         

            ลุงฉะอ้อน เผนโคกสูง อยู่บ้านเลขที่ 106 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่เลี้ยงเจ้า "ดำพิษร้ายที่ปลายหาง" มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เล่าให้ฟังว่า...
            "....สมัยก่อนพื้นที่แถบหนองไข่น้ำมีเจ้ายักษ์ดำค่อนข้างมาก เกรงว่าจะสูญพันธุ์ จึงเพาะเลี้ยงไว้บ้างแต่ไม่มาก โดยสร้างคอนโดให้มันอาศัยด้วยการใช้ยางล้อรถทับซ้อนให้สูง เพื่อให้พวกมันอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดไว้ อีกทั้งกันสัตว์อื่นมารบกวนมัน.."
            แมงป่องช้าง พบได้ตามพื้นที่ทั่วๆไปยกเว้นเขตขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ สำหรับในบ้านเราพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์สกุล Heterometrus ได้แก่ H. longimanus และ H. laoticus พบ H. laoticus...
            ...แมงป่องในสกุลนี้เป็นแมงป่องที่มีขนาดใหญ่ สกุลหนึ่งของโลกมีสีดำสนิท อีสานบ้านเฮาเรียกขานมันว่า "แมงเงา"...ตามเอกลักษณ์ของตัวมันตัวเป็นเงาดำ
            ลักษณะรูปร่างมีเปลือกแข็งหุ้มลำตัวเรียว มีขาจำนวน 4 คู่ มีก้ามใหญ่ 1 คู่ และมีส่วนหัวและหน้าอกอยู่รวมกันมีตาบนหัวหนึ่งคู่ และตาข้างอีก 3 คู่ ข้างปาก จะมีก้ามเล็ก อวัยวะสืบพันธุ์จะอยู่บริเวณหน้าท้อง
            ปลายหางพองกลม ปลายเรียวแหลมคล้ายหยดน้ำกลับหัวบรรจุต่อมพิษ มีเข็ม ที่ใช้ต่อย เรียกว่า "เหล็กใน" เมื่อเหยื่อ ศัตรูเข้าใกล้ มันจะชูอาวุธ และ พร้อมฝังได้ อย่างรวดเร็ว
            พฤติกรรมอาจมองดูว่าเป็นสัตว์ที่ลึกลับ นั่นเป็นเพราะมันไม่ชอบแสงสว่าง เหตุนี้เองจึงได้สมญานามว่า “เพชฌฆาตยามราตรี”
            ตัวผู้โตเต็มที่วัดจากหัวถึงหางจะมีขนาด 4.5 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าตัวเมียที่มีขนาดเพียง 3 นิ้ว พร้อมที่จะขยายเผ่าพันธุ์เมื่ออายุ 1 ปี อัตราส่วนที่พอดีๆของมันก็คือ 1 ต่อ 1 เหมือนๆกับ มนุษย์โดยทั่วๆไป อย่าให้ อัตราส่วนเกินไปกว่านี้ หากเป็น 1 ต่อ 2 แล้ว มันจะยุ่งจนเป็นข่าวหน้า 1 ทับซ้อนหลายวัน
            ช่วงฤดูที่ผสมพันธุ์ที่เหมาะสม เป็นเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม จากนั้นเพศเมียเริ่มตั้งท้องฟักไข่ ซึ่งสังเกตได้จากท้องและหลังที่เป่งเหมือนน้อยหน่าสุก...
            ...และมันจะกัดกินทุกอย่างไม่เว้น แม้กระทั่ง "คู่" ของมัน...ถึงตรงนี้ คุณผู้ชายนึกเสียวหรือไม่ คาบเวลานี้ตัวแม่จะอยู่แต่ในโพรงหรือหลืบแต่ผู้เดียว ผู้เป็นพ่อจะไป กะล่อนหรือลื่นไหลที่ไหนก็ไปให้ห่างไม่งั้นจะโดนเขมือบ แม่จะใช้เวลาตั้งท้อง นานราวๆ 7 ถึง 12 เดือน...จากนั้นไข่ในท้อง จะฟักเป็นตัวออกมาทางช่องสืบพันธุ์
            แล้วลูกจะเกาะใต้ท้องแม่ไปตลอด มันจะให้ลูกครอกละ 15-30 ตัว ในยามค่ำคืน "เจ้าแมงเงา เพชฌฆาตในความมืด" จะออกหาอาหารเป็นแมลง ปลวก หนอน ซากสัตว์ที่เน่าตายเปิบ พร้อมๆกับสอนให้ลูกมันรู้จักกินเพื่อประทังชีวิต...

พฤติกรรมและท่าทางของแมว

ท่าทางแมวท่าทางของแมวสื่อถึงความนัยบางอย่าง เริ่มจากส่วนหัวก่อนแล้วกันค่ะ การยืดหัวตั้งตรงไปข้างหน้าเป็นการแสดงความรู้สึกว่าเด่นกว่า
แต่เมื่อใดเหมียวก้มหัวลง เมื่อนั้นแสดงว่าเจ้าเหมียวรู้สึกด้อยกว่าอีกตัวนั่นเอง ถัดมาก็เป็นส่วนหู ซึ่งเป็นอวัยวะที่ไวต่อการรับรู้มากค่ะ
หากเจ้าเหมียวทำหูยื่นไปข้างหลัง มันได้เตือนศัตรูว่าจะจู่โจมแล้ว กลับกันหากมันทำหูต่ำลงข้างๆ มันกำลังแสดงการป้องกันตัวและ เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับผู้ที่มารุกราน ถัดจากหูก็คือตา เมื่อใดที่เหมียวเกิดความตึงเครียดหรือใจจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็น พิเศษ
ม่านตาของมันจะหดเล็กลง แต่จะเปิดกว้างเมื่อมันตกอยู่ในประหลาดใจ หรือเตรียมพร้อมค่ะ จากตาก็มาเป็นหนวด หนวดจะสื่ออารมณ์ หรือความรู้สึกที่เจ้าเหมียวมีอยู่ได้เป็นอย่างดี ดังตัวอย่างของเจ้าสายฟ้าและสายฝนไงคะ ลักษณะสำคัญอีกประการก็คือหากเหมียว ทำหนวดแผ่ออก ขอให้รู้เถอะว่ามันกำลังเครียดหรือตื่นเต้นกับบางสิ่งอยู่ค่ะ ทีนี้ก็มาถึงส่วนหาง หางที่แกว่งไกวไปมา แสดงถึงอาการลังเล
สับสน หากมันยกหางขึ้นพร้อมๆ กับดมก้นแมวอีกตัว มันได้แสดงความเป็นมิตรกับเหมียวตัวอื่นๆ (เข้าทำนองฉันอยากรู้จักเธอจังเลยน่ะ) กลับกันหากมันสะบัดหางขึ้นอย่าง รวดเร็วนั่นหมายถึงมันกำลังขู่และเตรียมพร้อมที่จะจู่โจม หากมันแสดงอาการม้วนหาง ไม่ใช่ว่ามัน กำลังเล่น กายกรรมอยู่นะคะ มันกำลังกลัวอยู่ต่างหากเอาหล่ะค่ะ ถึงตอนนี้เพื่อนๆ คงได้เรียนรู้ภาษากายและการสื่อสารแบบเหมียวๆ
พอสังเขป ลองสังเกตุเจ้าเหมียวที่บ้านดูนะคะว่าวันนี้ มันได้แสดงอารมณ์และความรู้สึกอย่างไรบ้า
สาระน่ารู้เรื่องผลไม้
 มะเขือเทศมีวิตามินเอและซี ที่มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ และยังช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น
 เสาวรสผลเสาวรส มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คลายร้อน และป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
 ลิ้นจี่มีวิตามินบี1 และบี2 และวิตามินซี มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงม้าม บำรุงอวัยวะภายใน บำรุงระบบประสาท และยังแก้อาการท้องเดินได้อีกด้วย
 ฝรั่ง มีวิตามินซี ที่มีสรรพคุณชะลอการลุกลามของมะเร็ง ช่วยสร้างและบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทำให้แผลหายเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดสารพิษในร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณสดใส
 บ๊วยมีสรรพคุณช่วยคลายร้อน เพิ่มกำลัง บรรเทาอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย และช่วยเสริมระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย หากดื่มน้ำบ้วยเป็นประจำ ยังจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย
 เห็ดหลินจือมีสรรพคุณช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคมะเร็ง บำรุงตับ บำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดแข็งตัว เส้นเลือดอุดตัน น้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง
 น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะและชะลอความแก่ เป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สดชื่นอยู่เสมอ ช่วยเสริมสร้างวิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายขาดไป ช่วยให้ระบบการย่อยและขับถ่ายดีขึ้น
 ตะไคร้ มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกายและยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
 ขิง มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น รักษาไข้หวัด รักษาอาการไอ ขับเสมหะ และยังช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้ออีกด้วย รักษาอาการปวดประจำเดือนในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
 ใบเตยมีสรรพคุณช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ รู้สึกสดชื่น และยังเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ 
 ถั่วเหลืองมีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ ช่วยลดและป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันและแก้ไขโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่มีโคเลสเตอรอล และมีใยอาหารสูง
 ลำไยเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้บำรุงร่างกายของสตรีภายหลังจากการคลอดบุตร  
 มะเม่าอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการแก่ชราของเซลล์ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังช่วยขับปัสสาวะ บำรุงไต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย
 มังคุดสาร Xanthone ในเปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่าง ๆ นอกจากนี้ในเปลือกมังคุดยังมีสาร แทนนิน ที่มีคุณสมบัติช่วยในการสมานแผล และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อีกด้วย
 มะม่วงช่วยละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และยังช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ หากรับประทานมะม่วงสดเป็นประจำแล้วก็จะช่วยทำให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงไปได้
 มะละกอมีสรรพคุณในการต่อต้านการเกิดของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น ม้าม และกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร และยังช่วยทำให้ผิวพรรณดี อีกด้วย
 สตรอเบอร์รี่มีวิตามิน ซี อยู่เป็นจำนวนมาก มีสรรพคุณที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัดและโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยให้เจริญอาหาร
 สับปะรดมีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยไฟเบอร์ที่มีอยู่มากมาย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างการดูดซึมอาหารของร่างกาย การลดความร้อนของร่างกายและยังช่วยแก้กระหาย หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำแล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไตอักเสบ และโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
 กระเจี๊ยบมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการร้อนในภายในช่องปาก ลดปริมาณของไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดระดับของความดันโลหิตภายในร่างกายให้กลับเข้าสู่ระดับปกติ และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย
 มัลเบอร์รี่หรือ หม่อน มีสรรพคุณที่สามารถต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ผู้ที่รับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งได้ และยังช่วยบำรุงไตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข่วยบำรุงโลหิต บำรุงประสาทตา ทำให้สายตาแจ่มใส ร่างกายก็สุขสบาย
 ลูกพลับมีโพแทสเซียมสูง และมีวิตามินซีสูง มีสรรพคุณช่วยให้หายอ่อนเพลีย บรรเทาอาการร้อนใน เจ็บคอ คอแห้ง เป็นแผลในปาก ละลายเสมหะ และบำรุงปอด นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการท้องเดินได้อีกด้วย
 กล้วยหอมมีวิตามินบีสูง มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด ความอ่อนล้า ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใส ในกล้วยหอมจะมีเส้นใยอาหารช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี และยังช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้นได้
 แก้วมังกรมีสารอาหารหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และมีเส้นใย มีสรรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนัก แก้ท้องผูก ป้องกันมะเร็งสำไส้ใหญ่และช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น
ส้มมีวิตามินเอและซี มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ

เชื้อโรคที่มาจากเครื่องใช้ IT


การใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรานั้นมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ IT อาทิ โน้ตบุ๊ก แล๊ปท๊อป คอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนประกอบของอุปกรณ์ทั้ง คีย์บอร์ดและเม้าส์ ล้วนสัมผัสโดยตรงกับตัวผู้ใช้ แล้วอุปกรณ์เหล่านี้นี่เองที่เป็นประตูของเชื้อโรคสู่ร่างกาย

หมอซุปเชื่อครับว่า ตั้งแต่เริ่มใช้อุปกรณ์เหล่านี้คงนับคนได้เลยที่จะมีการทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อโรคหน้าสัมผัสของอุปกรณ์เหล่านี้ และจนถึงวาระสุดท้ายของเครื่องมือเหล่านี้ ไม่ว่าจะล้าสมัย หรือ เสียหายคามือ ก็ยังไม่เคยได้ลิ้มรสความสะอาดเลย

ประเด็นที่หมอซุปอยากจะกระตุ้นเตือนบรรดาผู้ใช้งานคือ ให้ระมัดระวังเรื่องความสะอาด รวมไปถึงการปนเปื้อนของเชื้อโรค ซึ่งการใช้มือ นิ้วมือแตะสัมผัสกับคีย์บอร์ด กุมเม้าส์ เพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์นั้นย่อมได้รับเชื้อโรค สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานส่วนบุคคลก็อาจจะพอควบคุมความสะอาดได้บ้าง แต่อุปกรณ์ที่มีการใช้งานอย่างสาธารณะโดยเฉพาะร้านอินเตอร์เน็ต จุดบริการอินเตอร์เน็ตที่สนามบิน โรงพยาบาล โรงแรม ฯลณ ที่ไม่มีการจำกัดผู้ใช้งานต้องระมัดระวังครับ

เชื้อโรคแฝงจากIT
เชื้อโรคที่ควรให้ความระมัดระวัง ก็คงหนีไม่พ้น 2 กลุ่มใหญ่ คือ แบคทีเรียและไวรัส ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ ก็ทำให้เจ็บป่วยได้อย่างรุนแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยก็ว่าได้

แบคทีเรียที่ปนเปื้อนมักจะทำให้เกิดอาการ ไข้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ บางกรณีอาจจะรุนแรงกระทั่งถ่ายเป็นมูกเลือดเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วอาการโรคอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอาการไตวายในเด็กได้ด้วย

ไวรัสที่ก่อโรค อาจจะแบ่งได้เป็นกลุ่มที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารเหมือนแบคทีเรีย ซึ่งพบว่าก่อโรคได้ทุกเพศ ทุกวัย และกลุ่มที่ก่อให้เกิดโรคตับอักเสบ อย่างที่หมอซุปเคยเล่าให้ฟังกรณีของการปนเปื้อนน้ำทะเลครับ

ข้อแนะนำ: เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคในสถานการณ์ต่างๆ คือ การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ผิวสัมผัสของคีย์บอร์ดและเม้าส์อย่างสม่ำเสมอ ก่อนการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ควรมีการล้างทำความสะอาดมือและนิ้วมือด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการใช้ห้องน้ำด้วย เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจจะมาจากทางเดินอาหารและปนเปื้อนไปสู่หน้าสัมผัสของอุปกรณ์ ซึ่งเท่ากับเป็นการวางยา(เชื้อโรคที่ปนเปื้อน) ไปสู่ผู้ใช้งานคนถัดๆ ไป (หมายความว่า อาจจะมีเหยื่อมากกว่า 1ราย) แม้ว่าเชื้อโรคส่วนมากจะไม่สามารถเจริญเติบโตบนผิวสัมผัสเหล่านี้ได้ แต่เชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่อาจจะยังไม่ตาย เพียงแต่รอเวลาให้ผู้โชคร้ายรายต่อไป รับเอาเชื้อโรคเข้าสู่ทางเดินอาหาร แล้วก่อให้เกิดโรคต่อไป

นอกจากนี้ให้อนุมานว่าอุปกรณ์ IT สาธารณะไม่สะอาด ดังนั้น ระหว่างการใช้งาน ไม่ควรใช้มือหรือนิ้วมือ นำอาหารเข้าปากเป็นอย่างยิ่ง และ ที่ลืมไม่ได้ คือ การล้างมือทำความสะอาดหลังการใช้งานอุปกรณ์ ITสาธารณะทุกชนิด ในทุกสถานที่ด้วย
โดย: ผศ.นสพ.ดร.ศุภชัย เนื้อนวลสุวรรณ
ภาควิชาสัตว์แพทยสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มารยาทบนโต๊ะอาหารสามารถบ่งบอกได้ถึงการมีวัฒนธรรมอันดี การรับประทานอาหารไทยมีมารยาทต่างๆ ที่ควรทราบ เช่น ถือช้อนด้วยมือขวาและส้อมด้วยมือซ้าย ในวัฒนธรรมตะวันตกก็มีเช่นกัน คัดสรรที่น่าสนใจมา 10 ข้อ ดังนี้
  1. อาหารที่ใช้มีด และส้อมตัด หรือเฉือนอาหาร จะต้องให้ปลายของส้อมอยู่ในลักษณะคว่ำลงให้ด้ามของมีดและส้อมอยู่ในฝ่ามือ
  2. หากมีการสำลักหรือสะอึก ควรดื่มน้ำเพื่อช่วยแก้ไข แต่ถ้าไม่ดีขึ้นทำได้โดยขอโทษผู้ที่นั่งใกล้ๆ แล้วรีบออกจากห้องอาหารไปอย่างเงียบๆ
  3. ในการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มชนิด จะต้องใช้มือขวาจับแก้วดื่ม
  4. การนั่งโต๊ะรับประทานอาหารควรนั่งในลักษณะตัวตรง แล้วเอามือวางไว้บนตัก ให้ข้อศอกและแขนติดอยู่กับตัว ไม่ควรให้เกะกะคนอื่น
  5. ขณะนั่งรับประทานอาหารโดยใช้มีดกับส้อม อย่ากางแขนหรือข้อศอกให้มาก จะต้องให้ข้อศอกแนบกับตัวเอง
  6. จานขนมปังจะจัดวางไว้ทางซ้ายมือ เวลารับประทานจะต้องหยิบขนมปังทางซ้ายมือ อย่าหยิบทางขวามือเป็นอันขาด เพราะจะเป็นขนมปังของคนอื่น
  7. อย่าใช้มีดตัก หรือจิ้มอาหารใส่ปากเป็นอันขาด
  8. ขณะที่นั่งที่โต๊ะอาหาร เมื่อพนักงานบริการนำอาหาร หรือเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ควรเอียงตัวเล็กน้อย เพื่อให้พนักงานบริการเสิร์ฟอาหารหรือเครื่องดื่มได้สะดวก
  9. แก้วเครื่องดื่มต่างๆ บนโต๊ะอาหาร ที่มีการจัดแก้วไว้โดยเฉพาะ เช่น แก้วเหล้าไวน์ แก้วกาแฟ หรือแก้วแชมเปญ เป็นต้น ในกรณีไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มชนิดใดให้คว่ำแก้วนั้นไว้ เมื่อพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่ม จะทราบว่า ผู้รับประทานไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มชนิดนั้นจึงไม่ต้องเสิร์ฟ
  10. ในระหว่างการนั่งรับประทานอาหาร ไม่ควรอ่านหนังสือ เว้นแต่จะเป็นเมนูอาหาร หรือรายการเครื่องดื่มเท่านั้น
เรื่องเล็กน้อยทราบไว้จะทำให้ไม่เก้อเขิน เมื่อต้องพบปะเข้าสังคมรับประทานอาหารตะวันตก และสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับมารยาทในการรับประทานนั้น ยังมีที่น่าสนใจอีกมาก สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือของสำนักหอสมุดกลางที่บอกไว้ในที่มา